2024 ผู้เขียน: Chloe Blomfield | [email protected]. แก้ไขล่าสุด: 2023-12-16 00:01
โรคราน้ำค้างบนดอกกุหลาบ หรือที่รู้จักในชื่อ Peronospora sparsa เป็นปัญหาสำหรับชาวสวนกุหลาบหลายคน กุหลาบที่ได้รับผลกระทบจากโรคราน้ำค้างจะสูญเสียความงามและความแข็งแกร่ง
อาการโรคราน้ำค้างในดอกกุหลาบ
อาการใบเริ่มแรกของดอกกุหลาบที่เป็นโรคราน้ำค้างมีจุดสีเขียวอ่อนถึงเหลือง เรียกว่า “จุดน้ำมัน” เพราะอาจดูเหมือนมันเยิ้ม โรคราน้ำค้างบนดอกกุหลาบดูเหมือนจะโจมตีการเติบโตของใบใหม่ก่อนและทำงานไปตามพุ่มกุหลาบ คุณอาจเห็นก้านหรือกลีบเลี้ยงสีแดงบนพุ่มกุหลาบ
รักษาดอกกุหลาบด้วยโรคราน้ำค้าง
โรคราน้ำค้างจากดอกกุหลาบอาจเป็นลูกค้าที่ยากลำบากมากที่จะกำจัดมันออกไปเมื่อเริ่มต้น เมื่อใช้สเปรย์ฆ่าเชื้อราเพื่อควบคุม ควรใช้สารฆ่าเชื้อราสำรองในการฉีดพ่นแต่ละครั้งโดยใช้สารฆ่าเชื้อราที่มีโหมดการทำงานต่างกัน สารฆ่าเชื้อราที่มีเมทาแลกซิลดูเหมือนจะช่วยควบคุมได้
โรคราน้ำค้างกุหลาบสามารถเป็นได้ทั้งลมหรือน้ำ ดังนั้นการติดเชื้อของพุ่มกุหลาบอื่นๆ ในเตียงกุหลาบเดียวกันจึงมีโอกาสสูง การฉีดพ่นพุ่มกุหลาบทั้งหมดตั้งแต่เริ่มติดเชื้อครั้งแรก และฉีดพ่นต่อไปอย่างน้อยสี่ถึงห้าครั้งห่างกันเจ็ดถึงสิบวันควรหยุดการแพร่กระจายของโรคราน้ำค้าง ที่นี้เองก็เช่นกัน มีโปรแกรมการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อราป้องกันไว้มากมายค่า.
โรคราน้ำค้างบนดอกกุหลาบจะพัดผ่านฤดูหนาวในพุ่มกุหลาบ สำหรับลูกค้าที่แข็งแกร่งรายนี้ การรักษาที่ดีที่สุดคือการป้องกันอย่างแท้จริง การทำความสะอาดใบไม้ในฤดูใบไม้ผลิที่ดีเป็นสิ่งสำคัญมากในการป้องกันโรคนี้
โรคราน้ำค้างบนพุ่มกุหลาบและโรคกุหลาบใดๆ การรักษาให้อากาศไหลเวียนผ่านและรอบๆ พุ่มกุหลาบจะช่วยป้องกันโรคนี้ได้ อย่าปล่อยให้มันรกหรือแน่นด้วยใบไม้ การปลูกอ้อยใหม่ทั่วใจกลางพุ่มกุหลาบสามารถกลายเป็นศัตรูตัวร้ายในการต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บ อันที่จริงพุ่มกุหลาบที่มีใบเต็มและเต็มไปด้วยบุปผาเป็นสิ่งที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่ได้เห็น อย่างไรก็ตาม คุณจะได้ลุคที่สวยงามแบบเดียวกันนี้ด้วยการทำให้บางลงเล็กน้อยเพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก