2024 ผู้เขียน: Chloe Blomfield | [email protected]. แก้ไขล่าสุด: 2023-12-16 00:01
บ๊วยเรียก 'โอปอล์' ผลไม้ที่อร่อยที่สุด การผสมข้ามพันธุ์ระหว่าง 'Oullins' อันน่ารับประทานและพันธุ์ 'Early Favorite' นี้ หลายคนถือว่าเป็นพันธุ์ลูกพลัมต้นที่ดีที่สุด หากคุณกำลังปลูกโอปอลพลัมหรือต้องการปลูกต้นพลัมโอปอล คุณจะต้องรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับไม้ผลนี้ อ่านต่อเพื่อดูข้อมูลและเคล็ดลับเกี่ยวกับการดูแลลูกพลัมโอปอล
เกี่ยวกับต้นพลัมโอปอล
ต้นโอปอล์ที่ปลูกเป็นลูกผสมระหว่างพลัมยุโรป 2 สายพันธุ์ หนึ่งในนั้นคือพลัมเกจ ลูกพลัมที่ชุ่มฉ่ำ หอมหวาน และอร่อยมาก และบ๊วย 'โอปอล' ก็สืบทอดคุณภาพของขนมชั้นเยี่ยมนี้มา
ดอกบ๊วยโอปอลจะบานในฤดูใบไม้ผลิและเก็บเกี่ยวในฤดูร้อน ต้นโอปอล์ที่กำลังเติบโตเหล่านั้นกล่าวว่าต้นไม้ต้องมีแดดจัดในฤดูร้อนจึงจะทำให้เกิดรสชาติอันเลื่องชื่อและอุดมสมบูรณ์ พลัม 'โอปอล' เป็นผลไม้ขนาดกลางที่มีผิวเป็นด่างและเนื้อสีทองหรือสีเหลือง ลูกพลัมเหล่านี้จะสุกภายในสองสามสัปดาห์ แทนที่จะเก็บเกี่ยวพร้อมกัน ดังนั้นคาดว่าจะเก็บเกี่ยวได้มากกว่า 1 ครั้ง
ถ้าคุณเริ่มปลูกโอปอลพลัม คุณจะพบว่าผลไม้นั้นสดอร่อย ลูกพลัมเหล่านี้ยังทำงานได้ดี ลูกพลัมจะอยู่ได้ประมาณสามวันหลังจากเก็บ
โอปอล์พลัมแคร์
โอปอล์ต้นพลัมเป็นพืชที่ปลูกง่าย แต่รสชาติของผลไม้นั้นขึ้นอยู่กับว่าน้ำตาลในผลจะมีเวลาพัฒนาในช่วงเวลาสั้นหรือไม่ คุณจะปลูกโอปอลพลัมได้ดีที่สุดในช่วงแดดจัด หากคุณต้องการให้รสชาติเข้มข้นนั้น และที่ที่มีแดดจัดจะทำให้การดูแลต้นไม้เหล่านี้ง่ายยิ่งขึ้น
เมื่อคุณปลูก ให้เลือกไซต์โดยคำนึงถึงขนาดที่โตเต็มที่ของต้นไม้ พวกเขาเติบโตสูงเพียงประมาณ 8 ฟุต (2.5 ม.) โดยมีการแพร่กระจายเท่ากัน ไม้ผลเหล่านี้ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ในตัวเอง แต่อาจเป็นการดีกว่าถ้าปลูกมันด้วยลูกพลัมผสมเรณูอื่นที่เข้ากันได้ ทางเลือกที่ดีอย่างหนึ่งคือ 'วิคตอเรีย'
การดูแลลูกพลัมโอปอลต้องใช้ความพยายามเช่นเดียวกับต้นบ๊วยอื่นๆ ต้นไม้ต้องการน้ำสม่ำเสมอ จากนั้นจึงให้น้ำในช่วงฤดูผล เมื่อคุณปลูก คุณจะต้องรอระหว่างสองถึงสี่ปีจึงจะได้ผลผลิตที่ดี
โชคดีที่ต้นบ๊วยโอปอล์ต้านทานโรคต้นพลัมได้ดีมาก ทำให้การดูแลโอปอล์บ๊วยง่ายขึ้นมาก คาดว่าจะทำการตัดแต่งกิ่งต้นพลัมเพื่อสร้างกรอบที่แข็งแรงสำหรับผลไม้