2024 ผู้เขียน: Chloe Blomfield | [email protected]. แก้ไขล่าสุด: 2023-12-16 00:01
ไม้เลื้อยเติมเต็มช่องว่างทั้งภายในและภายนอกด้วยใบไม้ที่ลื่นไหลและมีพื้นผิวและทัศนคติที่ไม่ตายตัว แต่แม้แต่ไม้เลื้อยที่แข็งที่สุดก็อาจประสบปัญหาเป็นครั้งคราวและทำให้ใบเหลืองปรากฏขึ้น ใบของต้นไอวี่ที่เปลี่ยนเป็นสีเหลืองนั้นไม่ค่อยรุนแรงนัก แม้ว่าคุณควรทำการเปลี่ยนแปลงบางอย่างเพื่อปรับปรุงสุขภาพพืชของคุณ
ใบเหลืองบนต้นไอวี่
มีสาเหตุหลายประการที่ทำให้ไม้เลื้อยเปลี่ยนเป็นสีเหลือง รวมถึงศัตรูพืช โรคภัย และปัจจัยกดดันจากสิ่งแวดล้อม โชคดีที่ปัญหาเหล่านี้แก้ไขได้ง่ายหากระบุได้ทันที เมื่อใบไอวี่ของคุณเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ให้มองหาสัญญาณของปัญหาเหล่านี้บนต้นไม้ของคุณ:
ความเครียดจากสิ่งแวดล้อม
ใบเหลืองบนไม้เลื้อยมักเกิดจากระบบของพืชตกใจ ใบอาจเป็นสีเหลืองหลังการย้ายปลูกหรือเมื่อสัมผัสกับร่างจดหมาย อากาศแห้ง หรือเมื่อมีเกลือปุ๋ยในดินสูง ตรวจสอบว่าต้นไม้ของคุณไม่ได้ยืนอยู่ในน้ำ ย้ายจากหน้าต่างที่ได้รับแสงแดดโดยตรง และอยู่ห่างจากช่องระบายความร้อนเมื่อคุณสังเกตเห็นใบเหลืองในครั้งแรก
ถ้าผิวดินมีผลึกสีขาวติดอยู่ คุณอาจต้องชะล้างเกลือออกจากชาวไร่โดยเติมน้ำให้เท่ากับปริมาณหม้อสองเท่าและปล่อยให้หมดด้านล่างเอาเกลือไปด้วย หมอกสามารถช่วยได้ถ้าอากาศแห้งเป็นต้นเหตุ แต่อย่าให้น้ำนิ่งบนใบหรือคุณจะกระตุ้นให้เกิดโรคอื่น ๆ
ศัตรูพืช
ไรเป็นแมงตัวเล็ก ๆ แทบจะมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า เด็กน้อยเหล่านี้ดูดชีวิตออกจากเซลล์พืชอย่างแท้จริง ทำให้จุดสีเหลืองปรากฏบนผิวใบ เมื่อกระจายออก จุดสีเหลืองจะเติบโตร่วมกัน ส่งผลให้เกิดสีเหลืองเป็นวงกว้าง อาการอื่นๆ ได้แก่ ใบมีรอยย่นหรือบิดเบี้ยว ใบไม้ร่วงได้ง่ายและละเอียด เป็นเส้นไหมใกล้จะเสียหาย การทำหมอกและการบำบัดด้วยสบู่ฆ่าแมลงเป็นประจำจะทำลายตัวไรในเวลาไม่นาน
แมลงหวี่ขาวดูเหมือนแมลงเม่าขาวตัวเล็ก แต่ดูดน้ำผลไม้จากพืชได้เลย เหมือนไร มองเห็นได้ง่ายกว่ามากและบินขึ้นไปในระยะทางสั้น ๆ เมื่อถูกรบกวน พวกเขามักจะรวมตัวกันที่ด้านล่างของใบเป็นกลุ่ม หยดน้ำผึ้งเหนียวบนใบและวัตถุด้านล่าง แมลงหวี่ขาวจมน้ำตายได้ง่ายและบ่อยครั้งด้วยสายยางสวนหรือเครื่องพ่นสารเคมีในครัวจะส่งการบรรจุ
โรค
แบคทีเรียจะปะทุเมื่อมีความชื้นสูง แบคทีเรียเข้าสู่ใบผ่านทางปากใบหรือบริเวณที่เสียหาย ทำให้มีรอยโรคสีน้ำตาลถึงสีดำล้อมรอบด้วยรัศมีสีเหลือง หรือมีจุดและความผิดปกติเป็นวงกว้าง ตัดแต่งบริเวณที่เป็นโรคร้ายแรงและรักษาส่วนที่เหลือด้วยสารฆ่าเชื้อราทองแดง ในอนาคต หลีกเลี่ยงการรดน้ำเหนือศีรษะหรือหมอกหนาที่ทำให้น้ำนิ่งบนใบไม้