2024 ผู้เขียน: Chloe Blomfield | [email protected]. แก้ไขล่าสุด: 2023-12-16 00:01
เถาวัลย์ดีมาก พวกเขาสามารถปิดกำแพงหรือรั้วที่ไม่น่าดูได้ ด้วยโครงตาข่ายที่สร้างสรรค์ พวกเขาสามารถกลายเป็นกำแพงหรือรั้ว พวกเขาสามารถเปลี่ยนกล่องจดหมายหรือเสาไฟให้เป็นสิ่งที่สวยงามได้ หากคุณต้องการให้พวกมันกลับมาในฤดูใบไม้ผลิ สิ่งสำคัญคือต้องแน่ใจว่าพวกมันสามารถทนทานต่อฤดูหนาวในพื้นที่ของคุณ อ่านต่อเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการปลูกเถาวัลย์ในโซน 7 และเถาวัลย์ปีนเขาโซน 7 ที่พบบ่อยที่สุด
ปลูกเถาวัลย์โซน 7
อุณหภูมิฤดูหนาวในโซน 7 สามารถลดลงได้ถึง 0 F. (-18 C.) ซึ่งหมายความว่าพืชที่คุณเติบโตเป็นไม้ยืนต้นจะต้องทนต่ออุณหภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง การปีนเถาวัลย์เป็นเรื่องยากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพแวดล้อมที่หนาวเย็นเพราะยึดติดกับโครงสร้างและกางออก ทำให้แทบเป็นไปไม่ได้ที่จะปลูกในภาชนะและนำมาในร่มสำหรับฤดูหนาว โชคดีที่มีเถาวัลย์บึกบึนมากมายที่ทนทานพอที่จะผ่านฤดูหนาวโซนที่ 7
เถาวัลย์แข็งสำหรับโซน 7
Virginia Creeper – แข็งแรงมาก สามารถเติบโตได้สูงกว่า 50 ฟุต (15 ม.) กันแดดและเงาได้ดี
Hardy Kiwi – 25 ถึง 30 ฟุต (7-9 ม.) มันให้ดอกที่สวยงามและมีกลิ่นหอมและคุณอาจได้รับบ้างผลไม้ด้วยนะ
เถาทรัมเป็ต – 30 ถึง 40 ฟุต (9-12 ม.) ให้ดอกสีส้มสดใสมากมาย มันแพร่กระจายได้ง่ายมาก ดังนั้นให้จับตาดูหากคุณตัดสินใจที่จะปลูก
Dutchman's Pipe – 25-30 ฟุต (7-9 ม.) ให้ดอกไม้ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ทำให้พืชมีชื่อที่น่าสนใจ
ไม้เลื้อยจำพวกจาง – ทุกที่ตั้งแต่ 5 ถึง 20 ฟุต (1.5-6 ม.) เถาวัลย์นี้ผลิตดอกไม้ในหลากหลายสี มีหลายแบบให้เลือก
American Bittersweet – 10 ถึง 20 ฟุต (3-6 ม.) หวานอมขมกลืนจะผลิตผลเบอร์รี่ที่น่าดึงดูดหากคุณมีทั้งต้นชายและหญิง อย่าลืมปลูกพืชแบบอเมริกันแทนที่จะเป็นลูกพี่ลูกน้องชาวเอเชียที่รุกรานอย่างสูง
ดอกวิสทีเรียอเมริกัน – 20 ถึง 25 ฟุต (6-7 ม.) เถาวัลย์วิสทีเรียจะให้ดอกสีม่วงที่มีกลิ่นหอมและละเอียดอ่อน เถาวัลย์นี้ต้องมีโครงสร้างรองรับที่แข็งแรงด้วย