2024 ผู้เขียน: Chloe Blomfield | [email protected]. แก้ไขล่าสุด: 2023-12-16 00:01
โครงสร้างคล้ายต้นไม้ของต้นหยกทำให้แตกต่างจากไม้อวบน้ำอื่นๆ ด้วยการดูแลที่เหมาะสม ต้นหยกสามารถเติบโตได้สูง 2 ฟุต (0.5 ม.) พวกมันเป็นหนึ่งในไม้กระถางที่ดูแลง่ายที่สุด แต่ถ้าคุณมีใบพืชหยกปวกเปียก ก็ถึงเวลาพิจารณาอย่างใกล้ชิดว่าคุณรดน้ำต้นไม้อย่างไร
ทำไมหยกของฉันถึงเดินกะเผลก
เมื่อใบบนต้นหยกร่วงหล่นหรือคุณมีต้นหยกที่กำลังจะตาย สาเหตุปกติคือการรดน้ำที่ไม่เหมาะสม ในฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน และฤดูใบไม้ร่วง ให้ดินชื้นเล็กน้อย พืชจะหยุดพักในฤดูหนาวและต้องการน้ำน้อยลง
การรดน้ำมากเกินไปในฤดูหนาวเป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดสำหรับต้นหยกที่กำลังจะตาย เนื่องจากรากเริ่มเน่าเมื่อคุณให้ความชื้นมากกว่าที่จะดูดซับได้
วิธีหลีกเลี่ยงต้นหยกปวกเปียก
ในฤดูหนาว ลองรดน้ำต้นหยกด้วยการฉีดพ่นน้ำปริมาณมากจากขวดสเปรย์หรือโดยการหยดน้ำจากขวดสเปรย์ เช่น น้ำยาล้างจาน ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณทำความสะอาดและล้างภาชนะให้สะอาดหมดจดก่อนใช้เพื่อรดน้ำต้นหยกของคุณ การฉีดพ่นพืชยังช่วยป้องกันไรเดอร์ ซึ่งเป็นปัญหาทั่วไปของต้นหยก
คุณจะรู้ว่าต้นหยกของคุณไม่ได้รับน้ำเพียงพอเพราะใบจะเหี่ยวเฉา แต่จะคืนความชุ่มชื้นอย่างรวดเร็วเมื่อคุณรดน้ำต้นไม้ วิธีที่ดีที่สุดในการคืนน้ำให้พืชในฤดูหนาวคือการรดน้ำ 2-3 ครั้งแทนที่จะรดน้ำให้ท่วม
ในฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน และฤดูใบไม้ร่วง เมื่อพืชต้องการความชื้นมากขึ้น ให้รดน้ำต้นไม้ด้วยการแช่ดินให้ทั่ว ปล่อยให้ความชื้นส่วนเกินไหลผ่านรูที่ด้านล่างของหม้อแล้วเทจานรองออก อย่าปล่อยให้ต้นไม้นั่งในจานรองน้ำ
คุณควรปล่อยให้ดินด้านบนหรือสองนิ้วบน (2.5 ถึง 5 ซม.) แห้งก่อนที่จะรดน้ำอีกครั้ง ระวังการเหี่ยวเฉาและใบไม้ร่วงซึ่งบ่งบอกว่าพืชได้รับน้ำไม่เพียงพอ และใบปวกเปียกซึ่งบ่งบอกว่าได้รับน้ำมากเกินไป ปัญหาแมลงและโรคของต้นหยกมักจะตั้งหลักได้เมื่อพืชได้รับความเครียดจากการรดน้ำที่ไม่เหมาะสม
หลายคนเชื่อว่าต้นหยกและพืชอวบน้ำอื่นๆ สามารถทนต่อความแห้งแล้งเป็นเวลานาน โดยอาศัยความชื้นที่สะสมอยู่ในใบเนื้อหนา ในขณะที่พืชอวบน้ำจำนวนมากต้องการน้ำน้อยกว่าพืชชนิดอื่น การปล่อยให้แห้งส่งผลให้ใบเปลี่ยนสีหรือเหี่ยวเฉาที่ร่วงหล่นจากต้น การรดน้ำในช่วงเวลาที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ดูมีเสน่ห์และมีสุขภาพดี